วันเสาร์ที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2555

#10 ASP.NET (VB.NET,#C) Development/Programming

#10 ASP.NET (VB.NET,#C) Development/Programming




ASP คืออะไร


          Active Server Page (ASP) เป็นเพจ HTML ที่รวบรวมคำสั่งสคริปต์ (script) หนึ่งหรือมากกว่าที่ประมวลผลบน Microsoft web server ก่อนที่เพจจะส่งไปยังผู้ใช้ ในบางลักษณะASP คล้ายกับ server-include หรือการประยุกต์แบบ common gateway interface ซึ่งเป็นการทำงานโดยการประมวลผลบนเครื่องแม่ข่ายและปรับปรุงเพจ สำหรับผู้ใช้ตามปกติคำสั่งสคริปต์ในเว็บเพจที่เครื่องแม่ข่ายใช้การนำเข้า เป็นผลลัพธ์ของคำขอของผู้ใช้ สำหรับเพจที่ต้องเข้าถึงข้อมูลในฐานข้อมูลและสร้างหรือเจาะจงเพจแบบ on the fly ก่อนส่งไปให้ผู้ขอ

          ASP เป็นส่วนหนึ่งของ Microsoft Internet Information Server (IIS) แต่เนื่องจากคำสั่งสคริปต์บนเครื่องแม่ข่ายจะสร้างเพจเป็น HTML ธรรมดา ดังนั้น จึงสามารถใช้ได้กับ browser เกือบทุกโปรแกรม การสร้างไฟล์ ASP ด้วยคำสั่งสคริปต์ สามารถเขียนด้วย VBScript หรือ JScript ในไฟล์ ActiveX data objects หรือใช้คำสั่งของโปรแกรม ActiveX data objects ในไฟล์ HTML แต่ต้องใช้นามสกุลของไฟล์ HTML เป็น ".asp" ซึ่ง Microsoft แนะนำให้ใช้ ASP ด้านแม่ข่าย มากกว่าการใช้สคริปต์ลูกข่าย เพราะภาษาสคริปต์ลูกข่าย (เช่น Java Script ) จะไม่สามารถทำงานกับ browser ลูกข่ายได้
เอเอสพีดอตเน็ต (อังกฤษ: ASP.NET) คือเทคโนโลยีสำหรับพัฒนาเว็บไซต์ เว็บแอปพลิเคชัน และเว็บเซอร์วิส ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของดอตเน็ตเฟรมเวิร์ก พัฒนาโดยไมโครซอฟท์
          ASP.NET เป็นรุ่นถัดจาก Active Server Pages (ASP) แม้ว่า ASP.NET นั้นจะใช้ชื่อเดิมจาก ASP แต่ทั้งสองเทคโนโลยีนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง โดยไมโครซอฟท์นั้นได้สร้าง ASP.NET ขึ้นมาใหม่หมดบนฐานจากCommon Language Runtime (CLR) ซึ่งทำให้ผู้พัฒนาสามารถเลือกใช้ภาษาใดก็ได้ที่รองรับโดยดอตเน็ตเฟรมเวิร์กเช่น C# และ VB.NET เป็นต้น ปัจจุบันรุ่นล่าสุดคือ ASP.NET 2.0 ซึ่งรวมอยู่ใน .NET Framework 2.0. และ .NET Framework 3.0.
                  ASP.NET 1.0 ได้ออกมาในเดือนกุมภาพันธ์ ปีพ.ศ. 2545 (ค.ศ. 2002) พร้อมกับ Visual Studio .NET 2002 ในเดือนเมษายน พ.ศ. 2546 ASP.NET 1.1 นั้นได้ออกมาพร้อมกับ Visual Sttudio .NET 2003 และในวันที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2548 ASP.NET 2.0 ได้ออกมาพร้อมกับ Visual Studio 2005 และ SQL Server 2005.
                   ASPX เป็นชื่อรูปแบบไฟล์ของหน้าแบบฟอร์ม ASP.NET โดยทั่วไปแล้วในไฟล์จะมีรหัสแบบ HTML หรือ XHTML ซึ่งใช้กำกับรูปแบบฟอร์ม หรือ เนื้อหาในหน้าเว็บ และในส่วนของโค้ดนั้น อาจจะอยู่ในหน้าเดียวกันในแท็ค หรือ บล็อก <% -- รหัสที่ใช้ -- %>(โดยในกรณีนี้จะคล้ายกับเทคโนโลยีที่ใช้พัฒนาเว็บ อย่าง PHP และ JSP) หรือแยกอยู่ในหน้าโค้ดออกมาต่างหาก (Code behind) ASP.NET รองรับการเขียนโค้ดในบรรทัดเดียวกันทั้งหมดในไฟล์ ASPX แต่วิธีนี้นั้นเป็นวิธีที่ไม่แนะนำ




ความรู้เกี่ยวกับ ASP.NET Web2.0 และ Web Service

ASP.NET คือ ความหมาย สำหรับคนที่ต้องการอยากจะ เรียน เขียนโปรแกรม ด้วยตัวเอง ถ้าหากว่า ยังไม่รู้ว่าจะเริ่ม ทำเว็บไซต์ ด้วยภาษาอะไรดี อาจจะเริ่มด้วย ASP.NET ก็อาจเป็นการดี เพราะว่า ASP.NET จัดเป็น ภาษา ที่ Microsoft ได้มุ่งเน้นพัฒนาเพื่อให้เป็น ภาษา ของ generation ยุคถัดไป ในโลกของ อินเตอร์เน็ต ยุคใหม่ หรือ ที่เรียกกันว่า Web2.0 ซึ่งเป็น Internet ยุคใหม่ ที่จะมาแทนที่ ยุคของ Internet ยุคเก่า (Web1.0) ซึ่งได้เน้นใช้ XML เป็นหลัก และคิดว่าในอนาคตจะต้องมาแทน HTML อย่างแน่นอน สำหรับ รายละเอียด จะได้กล่าวต่อไป แนวคิดของ .NET กับ โลกอินเตอร์เน็ต ยุคใหม่
.NET คือแนวคิดหนึ่งที่ Microsoft ได้มุ่งมั่นพัฒนามาเป็นเวลานาน โดย .NET นี้ได้มีแนวคิดที่ว่า จะนำเอาอุปกรณ์อิเล็คทรอนิคทุกอย่างบนโลก มาเชื่อมโยงต่อกันเหมือนตาข่าย ตาม ความหมายของมัน หรืออยู่บน ระบบเครือข่าย .NET Framework ซึ่งจะทำให้ ผู้ใช้ทุกคนบนโลก ไม่จำเป็นต้องใช้ อินเตอร์เน็ต ผ่าน คอมพิวเตอร์ หรือ อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ แต่อย่างใด ตัวอย่างเช่น หากคุณคิดจะใช้ เตาอบไมโครเวฟ ใน การทำอาหาร อะไรสักอย่าง คุณเพียงแค่ต่อ อินเตอร์เน็ต ผ่านเครื่อง เตาไมโครเวฟ แล้วเลือกเอาว่า เมนูจานเด็ดวันนี้ จะทำอะไรดี หรือ เมนูจานเด็ด จากเว็บไซต์ที่ให้บริการ Web services ในเรื่องการทำอาหาร ที่ในอนาคต จะไม่ได้มีอยู่แค่ Yahoo Google Amazon แต่ตัว Web services นี้ (ซึ่ง XML RSS จะมามีบทบาทสำคัญ กับ Web services ในอนาคต) ซึ่งเพียงแค่คุณเลือกเมนูอาหาร จากเว็บไซต์ที่คุณโปรดปรานเท่านั้น เตาไมโครเวฟ ก็จะจัดการ ปรุงอาหาร ตามที่ เว็บไซต์ นั้น ได้ตั้งโปรแกรมไว้อัตโนมัติ ซึ่งแน่นอนว่า Web services ตัวอย่างข้างต้นนี้ จะเกิดขึ้นมาแน่นอน
โดยทางเว็บไซต์ ก็จะมีรายได้จากการที่ผู้ใช้หรือสมาชิกที่ได้ใช้บริการ Webservices ดังกล่าว ซึ่งทาง Microsoft เองได้วาดหวังว่า ในได้ก้าวเป็นผู้นำใน โลกอินเตอร์เน็ต ยุคใหม่ ที่จะเข้ามามี บทบาทสำคัญ กับ ชีวิต ประจำวันของพวกเราทุกคนอย่างแน่นอน กับโลกเทคโนโลยีที่ก้าวไปอย่างไม่หยุดนิ่งนี้ แต่ ปัญหา มันมีอยู่ว่า อุปกรณ์อิเล็คทรอนิค ในหลายแขนง ล้วนถูก ออกแบบ มาต่างๆกัน การที่จะให้ อุปกรณ์ เหล่านั้นติดต่อสื่อสาร กันรู้เรื่องนั้น ย่อมเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก Microsoft เล็งเห็นจุดนี้ จึงได้พยายามที่จะคิดค้นสิ่งที่เป็นมาตรฐานมากขึ้น เพื่อให้อุปกรณ์ทุกๆชนิดทั่วโลก ติดต่อสื่อสาร กันได้อย่างรู้เรื่อง จึงไม่ใช่เรื่องแปลกถ้าใน อนาคตเราจะเปิด เว็ปไซต์ เล่น อินเตอร์เน็ต ด้วย อุปกรณ์ อื่นๆนอกเหนือจาก คอมพิวเตอร์

ASP Web Services คืออะไร

Web services คำๆ นี้ หลายๆคน อาจเคยได้ยินคำๆนี้มากันบ้างแล้ว แต่ก็มีหลายคนสงสัยว่ามัน คืออะไร กันแน่ ซึ่งชื่อ Web Service นั้นแปลตามตัวตาม ความหมาย ก็คือ การใช้บริการ ต่างๆผ่านทาง website นั่นเอง ซึ่งก็ตรงตาม จุดประสงค์ ของ Microsoft ที่ต้องการจะทำให้ทุกอย่าง สามารถใช้งานโดย การเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ต ได้นั่นเอง web services นี้จึงกลายเป็น คำศัพท์ คำใหม่ ที่ทุกคน กล่าวขวัญ กันในทุกวันนี้ ซึ่งจริงๆแล้ว Web Service ก็คือการเรียกใช้งาน ชุดคำสั่ง ในระยะไกล ซึ่ง ชุดคำสั่ง เหล่านี้ไม่ใช่แค่ชุดคำสั่ง ธรรมดา แต่เป็นชุดคำสั่งที่ ออกแบบ เขียนขึ้นมาเป็น โปรแกรม เหมือนกับ การใช้งาน ของ Client เลยทีเดียว ทำให้เราไม่ต้องไป ติดตั้งโปรแกรม ต่างๆภายใน เครื่องคอมพิวเตอร์ ของเราเลย เมื่อใดต้อง การใช้งาน ก็ต่อ อินเตอร์เน็ต เข้าไปใช้ บริการ ใน website ผู้ผลิต ได้ทันที โดยอาจมีการเรียกเก็บ ค่าบริการ เป็นครั้งๆไป ซึ่งจะช่วยลด ปัญหา ใน การละเมิดลิขสิทธิ์ และ ชุดคำสั่ง เหล่านี้จะทำให้ ASP.NET มี บทบาท มากทีเดียว

ASP.NET กับ คุณสมบัติพิเศษ และ ข้อดี

ASP.NET หรืออีกชื่อหนึ่งว่า ASP+ ซึ่งเป็นชื่อที่ Microsoft ใช้เรียกในตอนแรก ถือว่าเป็น ASP เวอร์ชั่น ล่าสุดต่อจาก ASP 3.0 แต่คงไม่สามารถพูดได้เต็มปากว่า ASP.NET พัฒนามาจาก ASP เพราะรูปแบบ และไวยากรณ์ต่างๆ และ ภาษา ที่นำมาใช้งานนั้นต่างจากเดิมแทบทั้งสิ้น แทบจะเรียกได้ว่า ยกเครื่องใหม่ เลยทีเดียว น่าจะพูดได้ว่า ASP.NET เป็นอีก Generation หนึ่งของ ASP มากกว่า เรามาลองดูกันว่าใน ASP.NET นั้นมีอะไรที่แตกต่างจาก ASP รุ่นก่อน ๆบ้าง
1. ใช้ ภาษา ใดๆในการเขียน scriptก็ได้ : จากเดิมที่เราสามรถใช้ได้เฉพาะ ภาษา ที่เป็น script อง VBScript และ JScript แต่ใน ASP.NET เราสามารถที่จะใช้ ภาษา ที่มีรูปแบบของ ภาษา เต็มๆ ซึ่ง ในเบื้องต้น มี3 ภาษา คือ C#, VB.NET และ JScript.Net ที่ออกมาเป็น มาตรฐาน แต่ในอนาคต Microsoft มีแผนที่จะเพิ่ม ตัวแปลภาษา ให้ครบ ทุกภาษา
2. มีความยืดหยุ่นใน การเขียนโปรแกรม มากขึ้น : โดยที่เราสามารถใช้ ภาษาในการเขียน ASP.NET ได้มากกว่า 1 ภาษาภายในไฟล์เดียวกัน ทำให้สามารถเลือกรูปแบบของภาษาที่ง่ายที่สุดต่อการเขียน ในแต่ละส่วนได้
3. ลักษณะ การแปลภาษา และ นามสกุล ไฟล์เปลี่ยนไป : ใน ASP เวอร์ชั่นก่อนๆ มีลักษณะ การแปลภาษา เป็นแบบ อินเตอร์พรีเตอร์ (Interpreter) คือการจะทำคำสั่งใดค่อยแปลคำสั่งนั้น แต่ในเวอร์ชั่น .NET นี้จะมี ลักษณะเป็น คอมไพเลอร์ (Compiler) คือการแปลคำสั่งรวมทั้ง โปรแกรม นอกจากนี้ นามสกุล ของไฟล์ก็มี การเปลี่ยนแปลง จากเดิมที่ใช้นามสกุลไฟล์เป็น " *.asp" เป็น "*.aspx"
4. รูปแบบและการใช้งาน componet ที่ง่ายขึ้น : รูปแบบของ componet จะเน้นไปที่ XML มากที่สุด และที่สำคัญคือการใช้งาน componet ใน ASP.NET นั้นเราสามารถอัพโหลดไฟล์ไปไว้ใน Directory ที่ผู้ดูแล server (Admin) กำหนดหลังจากนั้น componet จะติดตั้งตัวเองโดย อัตโนมัติ ลดปัญหาที่เกิดจาก ASP เวอร์ชั่นก่อนๆได้เป็นอย่างดี เนื่องจากใน ASP เวอร์ชั่นก่อนนั้น การติดตั้ง componet กระทำได้เพียงผู้ดูแล server เพียงคดเดียวเท่านั้น ทำให้เวลาต้องการใช้คอมโพเนนตืต่างๆที่ server ไม่มี จึงเป็นเรื่องที่ลำบาก
5. มี Libraryให้เลือกใช้ได้มากขึ้น : ใน ASP เวอร์ชั่นก่อนๆนั้น Application บางอย่างสร้างได้ไม่สะดวกนัก ต้องอาศัย componet ต่างๆมากมาย แต่ใน ASP.NET นั้นได้เพิ่ม Libraryในส่วนเหล่านี้ให้กลายเป็น พื้นฐาน ของการใช้งาน
6. มี คอนโทรล ทำให้การใช้งานในบางสิ่งง่ายขึ้น : เป็น ส่วนพิเศษ ที่เพิ่มเติมมาจาก ASP รุ่นก่อนๆที่ไม่มีส่วนที่เรียกว่า คอนโทรล ซึ่งคอนโทรลนี้จะช่วยให้เราสามารถ สร้างเว็บไซท์ ได้อย่างง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น จึงไม่ต้องกังวลว่า browser รุ่นนั้นรุ่นนี้จะรองรับกับ ภาษา ที่เราเขียนหรือไม่
7. สามารถเรียกขอข้อมูลจาก server ได้ : ใน ASP เวอร์ชั่นก่อนๆ server สามารถเรียกขอข้อมูลได้จาก เครื่องผู้ใช้ เท่านั้นแต่ใน ASP.NET เครื่อง server สามารถเรียกขอข้อมูลจากเครื่อง server ด้วยกันได้
8. ไม่ต้องต่อ Hardware : เนื่องจากเป็นระบบใน .NET Framework ดังนั้นจึงมีคุณสมบัติของ Common Languare Runtime (CLR) ทำให้มี การคอมไพล์ โปรแกรม เป็น ภาษามาตรฐาน ที่เรียกว่า IL ก่อน ดังนั้นไม่ว่าคุณจะเล่นเครื่อง ปาล์ม หรือ โน้ตบุ๊ค PDA ก็ไม่เกิดปัญหา
9. ง่ายต่อการหา ข้อผิดพลาด ใน การเขียนโปรแกรม : หากเป็น ASP รุ่นก่อนเวลาเกิดความผิดพลาด (error) เครื่องจะบอกแค่ว่าเป็น ความผิดพลาด ชนิดใดบรรทัดไหน แต่ใน ASP.NET นี้เครื่องจะแสดงรายละเอียดที่มากขึ้น พร้อมแนวทางแก้ไข
10. มีการ ตรวจสอบ เหตุการณ์ต่างๆได้ภายใน เว็บเพจ : มี การตรวจสอบ เหตุการณ์ ต่างๆ ตั้งแต่โหลด หน้าเว็บเพจ ไปจนถึง ปิดหน้าเว็บ เพจลง ทำให้เราสามารถ เขียนโปรแกรม กำหนดเหตุการณ์ต่างๆได้ง่ายขึ้น
11. แยกส่วนที่เป็น HTML กับ ASP ออกมาอย่างชัดเจน : ใน เวอร์ชั่น ก่อนๆส่วนที่เป็น HTML กับ ASP จะเขียนปนกันไปมา แต่ใน เวอร์ชั่น นี้จะแยกส่วนกันอย่างชัดเจนว่าส่วนไหนเป็น HTML และส่วนไหนเป็น ASP สำหรับใคร ที่อยากจะเริ่มลอง ทำเว็บไซต์ อยากให้ลองใช้ ASP.NET เป็น ภาษาแรก ใน การเขียนโปรแกรม สร้างเว็บไซต์ ดูบ้างนะครับ

ข้อได้เปรียบหลักของ ASP.NET ระหว่าง ASP

§  โค้ดจะได้รับการ compiled ทำให้การทำงานรวดเร็วขึ้น และช่วยจับข้อผิดพลาดในช่วงการออกแบบได้
§  ระบบการจัดการข้อผิดพลาด (Exception handling) ที่ดีขึ้นกว่าเดิม
§  ใช้วิธีการพัฒนาวินโดวส์แอปพลิเคชันอย่างการใช้ controls หรือ events ซึ่งทำให้การพัฒนาง่าย และดูดีขึ้น
§  มีหลากหลาย controls และไลบรารีพร้อมในการใช้งานให้เลือกเพื่อการพัฒนาที่สะดวก และรวดเร็วขึ้น
§  สามารถพัฒนาได้หลากหลายภาษาที่รองรับดอตเน็ต เช่น C# VB.NET J# เป็นต้น
§  สามารถทำการแคชได้ทั้งหน้า หรือส่วนหนึ่งของหน้าที่ต้องการ
§  สามารถแยกส่วนโค้ดออกมาต่างหากจากหน้ารูปแบบ
§  Session สามารถเลือกที่จะบันทึกในฐานข้อมูลได้ ทำให้ session ไม่สูญหายหากมีการรีเซ็ตเว็บเซิร์ฟเวอร์ เป็นต้น
§  รองรับมาตรฐานเว็บดีขึ้นกว่าเดิม รวมถึงการทำงานร่วมกับ CSS
นี้คือรายชื่อโปรแกรมจำนวนหนึ่งที่สามารถใช้ในการพัฒนา ASP.NET ได้:




อ้างอิงจาก









ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น